นายชิต เหรียญประชา
นายชิต เหรียญประชา เป็นชาวนครปฐม อำเภอสามพราณ
ตำบลยายชา เกิดปีวอก วันพุธ 3 ค่ำ เดือน 8 ตรงกับวันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2451 สัมฤทธิศกจุลศักราช 1270 ร.ศ. 1908 ในตระกูลชาวนา บิดาชื่อกวย มารดาชื่อมาก มีพี่น้องรวม 7 คนและเป็นศิลปินชั้นเยี่ยมของการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ
ได้รับการยกย่องในวงการศิลปะว่าเป็นผู้มีความยึดมั่นในการสร้างสรรค์ศิลปะมาเป็นเวลาอันยาวนานถึง
๕๐ ปี นายชิต เหรียญประชา เป็นศิลปินที่มีความเป็นเลิศในด้านการแกะสลักไม้
เป็นผู้ที่มีความสามารถนำเอารูปแบบของศิลปะประเพณีมาผสมกับรูปแบบวิธีการของศิลปะสมัยใหม่ได้เป็นผลสำเร็จ
นับว่าท่านเป็นศิลปินผู้บุกเบิกของยุคศิลปะสมัยใหม่ของไทยผู้หนึ่ง
ผลงานของท่านได้รับเกียรติแสดงในการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ
การแสดงศิลปะร่วมสมัยของไทยในประเทศและมีติดตั้งแสดงถาวรในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์
แม้ว่าจะอยู่ในวัยชราท่านยังคงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างไม่หยุดหยั้ง
มหาวิทยาลัยศิลปากรเห็นความสำคัญในผลงานของ ชิต เหรียญประชา จึงได้จัดแสดงผลงาน
จำนวน ๓๑ ชิ้น เพื่อเป็นเกียรติและเป็นการเผยแพร่ผลงานแก่ประชาชน
ที่หอศิลป์ของมหาวิทยาลัย นายชิต เหรียญประชา
ได้ดำเนินชีวิตและสร้างสรรค์ผลงานเป็นประโยชน์และเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในฐานะบุคคลและศิลปิน
นายชิต เหรียญประชา เกิดที่จังหวัดนครปฐม “จากชีวิตช่างสู่ความเป็นศิลปินชั้นเยี่ยม”
เริ่มต้นอาชีพรับจ้างทำงานช่างชั้นฝีมือ
ด้วยความอดทนใช้ความชำนาญสร้างผลงานประติมากรรมปั้นและแกะสลักงาช้างชื่อ
หนุมานและนางมัจฉา ต่อมาสร้างผลงานแกะสลักไม้ชื่อ รำมะนา หญิงไทย เถิดเทิง
ผลงานทั้งหมดได้สะท้อนลักษณะประติมากรผู้เชี่ยวชาญที่ตัดส่วนละเอียดของรูปทรงให้เหลือเฉพาะส่วนสำคัญ
ให้มีท่าทางถูกต้องตรงตามเรื่องราววิถีชีวิตของคนไทยโดยอาศัยชั้นเชิงกระบวนการแกะสลักไม้
และจากการได้รับรางวัลในงานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1
ถึง 4ทำให้ได้รับการยกย่องเป็นศิลปินชั้นเยี่ยมด้านประติมากรรม
ผลงานพระพุทธรูปปางลีลาและปางมารวิชัยเป็นผลงานประติมากรรมแกะสลักไม้ที่สร้างสรรค์ขึ้นตามความคิดคำนึงของตนเอง
เป็นผลงานขนาดใหญ่สองชิ้นที่สร้างขึ้นในช่วงปัจฉิมวัย
ผลงานดังกล่าวได้พิสูจน์ความมุ่งมั่นในความเป็นช่างแกะสลักสู่ศิลปินชั้นเยี่ยมด้านประติมากรรมจากงานศิลปกรรมแห่งชาติ
ตลอดชีวิตการทำงานสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนนี้ผลงานของท่านได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือศิลปะหลายเล่ม เช่น
สูจิบัตร การแสดงนิทรรศการศิลปกรรมแห่งชาติ หนังสือศิลปะร่วมสมัยของศาสตราจารย์ศิลปะ
พีระศรี และของคณะจิตรกรรมประติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร
หนังสือการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ
ย้อนหลังจัดพิมพ์กาสเปิดหอศิลป์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น
ระหว่าง พ.ศ. 2489-2500
ท่านได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมจิตรกรรมประติมากรรมแห่งประเทศไทย (คนที่ 2) ท่านเสียสละเวลากำลัง ความคิด
กำลังกายดำเนินการเป็นผลดีแก่วงการศิลปะและประชาชนอย่างมากมาย
นับเป็นยุครุ่งเรืองของสมาคมยุคหนึ่ง
ช่วงนี้ท่านได้สร้างพระพุทธรูปไม้และโลหะขึ้นหลายองค์อุทิศให้พระพุทธศาสนา
แม้จะสูงอายุ ท่านอุทิศตนแก่งานศิลปะที่ท่านรักเป็นที่สุด
หลังจากได้ฟันฟ่าอุปสรรคมามากมายในอดีต
เมื่อมีโอกาสท่านจะไม่ลังเลที่จะทำประโยชน์ให้แก่เยาวชนและประเทศชาติ
ท่านใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะ สงบเสงี่ยม
สง่างามตามอัตถภาพท่ามกลางความเคารพรักของญาติสนิทมิตรสหาย
ท่านถึงแก่กกรมอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2537 ด้วยโรคไตวายและหัวใจล้มเหลว ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อายุได้ 86 ปี
ที่มา : ปราชญ์ท้องถิ่น. ค้นเมื่อ สิงหาคม 15,
2555, จาก
http://cul.npru.ac.th/journal/pdf/NPphilosopher4.pdf
โดย สาธิกา
สุขกรม และ รักใจ ทองฉิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น